Meta: ทำความรู้จัก omnichannel คืออะไร? omnichannel marketing มีกี่ส่วน? ต่างจาก multi channel อย่างไร? แม่ค้าออนไลน์ทุกคนต้องรู้ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่!

การขายของออนไลน์ นับว่าเป็นการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถขายของได้ง่ายกว่าและเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย รวมไปจนถึงช่องทางการขายผ่านโซเชียลมีเดียด้วย ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ omnichannel คืออะไร? omnichannel marketing มีกี่ส่วน? ต่างจาก multi channel อย่างไร? ข้อดีและวิธีการทำ พร้อมแนะนำตัวช่วยที่ทำให้เจ้าของธุรกิจทำ omnichannel marketing ได้ง่ายขึ้น อ่านต่อได้เลย!
 

Omnichannel คืออะไร?

Omnichannel คือ รูปแบบของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ทุกช่องทางในการขายและการติดต่อสื่อสารของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการขายออนไลน์ เช่น Social Media เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งช่องทางการขายแบบออฟไลน์ หรือหน้าร้านเอาไว้ในที่เดียวกัน ด้วยการรวมข้อมูลของลูกค้าทุกช่องทางเอาไว้ด้วยกัน ทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาร้านค้าให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น มีสถิติภาพรวมของการซื้อการขายเชิงลึก สามารถทำการวิเคราะห์ถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและสามารถพัฒนาการให้บริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้อย่างตรงใจมากที่สุด
 

Omnichannel  ต่างกับ Multi channel อย่างไร?

Multi channel คือ รูปแบบของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ติดต่อสื่อสารและเสนอขายสินค้าให้กับลูกค้าบนช่องทางต่าง ๆ หลาย ๆ ช่องทางเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น หน้าร้าน ทางโทรศัพท์ ตัวแทนจัดจำหน่าย เว็บไซต์ หรืออีเมล เป็นต้น นั่นหมายความว่า multi channel จะมีลักษณะการทำงานแบบแยกกัน ข้อมูลต่าง ๆ ถูกจัดเก็บไว้คนละส่วน
 

ส่วน Omnichannel Marketing จะเน้นในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ผสมผสานช่องทางการขายเอาไว้ด้วยกันให้เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นความแตกต่างจึงอยู่ที่การเชื่อมต่อช่องทางการขายและข้อมูลของลูกค้าเอาไว้ด้วยกันนั่นเอง
 

Omnichannel มีกี่ส่วน?

Omnichannel marketing แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ

1. Customer Data Platform (CDP) คือ เครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้าจากทุกช่องทางผ่าน API เข้ากับระบบอื่น ๆ ทำให้เห็นข้อมูลของลูกค้าทั้งหมด สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. Marketing Automation คือ เครื่องมือทำการตลาดแบบอัตโนมัติ ทั้งในส่วนของการเจาะจงไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การทำแคมเปญ หรือโปรโมชันผ่านช่องทางต่าง ๆ ตาม Personalized ของลูกค้าเอง ช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำเพราะได้รับประสบการณ์การซื้อที่ดีและพึงพอใจนั่นเอง

 

ข้อดีของการทำ Omnichannel marketing

- เจ้าของธุรกิจ
 

●  มีช่องทางการวางขายสินค้าที่หลากหลายโดยที่ไม่ต้องใช้หน้าร้าน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ลูกค้ามองเห็นร้านค้าและสินค้าของเราได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าที่มีสินค้าหลายประเภท ทำให้ลูกค้ามีโอกาสซื้อสินค้าหลายชิ้นภายในร้านได้มากขึ้น
●  ด้วยข้อมูลแบบชุดเดียวที่มีการเชื่อมต่อกันทุกแพลตฟอร์ม ทำให้การจัดการระบบหลังบ้านเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย ง่ายดายและลดการทำงานซ้ำซ้อนได้
●  มีข้อมูลเชิงลึกจากช่องทางการวางขายสินค้าเป็นชุดเดียว สามารถส่งต่อเพื่อทำการวิเคราะห์และปรับปรุงพัฒนาสินค้าและการให้บริการได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สามารถปรับใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและส่งมอบประสบการณ์การซื้อของที่พึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ หรือซื้อมากขึ้นได้ด้วย  
 

- ลูกค้า

●  มีช่องทางการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ง่าย สะดวกสบายและรวดเร็วทันใจ
●  สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้ตามที่ต้องการ
●  ได้รับประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าที่ดีที่สุด ตรงใจมากที่สุด เพราะเจ้าของธุรกิจสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลความชื่นชอบของลูกค้าได้
●  สามารถทำการสื่อสารกับร้านค้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ซ้ำซ้อน หรือทำให้หงุดหงิดใจ
●  มีช่องทางการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ง่าย สะดวกสบายและรวดเร็วทันใจ
●  สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้ตามที่ต้องการ
●  ได้รับประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าที่ดีที่สุด ตรงใจมากที่สุด เพราะเจ้าของธุรกิจสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลความชื่นชอบของลูกค้าได้
●  สามารถทำการสื่อสารกับร้านค้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ซ้ำซ้อน หรือทำให้หงุดหงิดใจ
 

วิธีทำและขั้นตอนการทำ Omnichannel marketing

1. การเลือกใช้ช่องทางสำหรับการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยการวิเคราะห์ว่าสินค้าของเรา ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย? ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะใช้ช่องทางไหนในการสั่งซื้อสินค้าบ้าง? เราจะสามารถนำสินค้าไปวางขายที่ไหนเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้บ้าง?

2. การเชื่อมต่อช่องทางการขายและการสื่อสารทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน การเก็บสะสมข้อมูลของลูกค้าบนทุก ๆ ช่องทางเข้าไว้ด้วยกันเป็นชุดเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนาและการให้บริการแก่ลูกค้าในด้านต่าง ๆ

3. การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Omnichannel เพื่อให้แบรนด์สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการซื้อขายสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้า หรือทำการติดต่อสื่อสารจากช่องทางใดก็ตาม ทั้งนี้สามารถนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ในการวิเคราะห์ถึงความต้องการของลูกค้าได้ เช่น สินค้าที่ซื้อซ้ำ สินค้าที่เคยซื้อ สินค้าที่สนใจ เป็นต้น

4. การจัดเก็บและการนำข้อมูลไปใช้ หลังจากได้รับข้อมูลของลูกค้าแล้ว สามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปทำการวิเคราะห์ต่อถึงภาพรวมของร้านค้า สินค้าและการให้บริการเพื่อพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
   

แนะนำ BigSeller ตัวช่วยที่ทำให้เจ้าของธุรกิจหรือแม่ค้าออนไลน์ทำ Omnichannel ได้ง่ายและประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่ง

BigSeller เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Omnichannel ที่ตอบโจทย์สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ช่วยให้การจัดการระบบหน้าบ้านและหลังบ้านเป็นไปได้ง่าย สะดวกสบายและประหยัดต้นทุนได้มากที่สุด โดยเฉพาะการขายของออนไลน์บน marketplace อย่าง Shopee, Lazada, Tiktok, Facebook ฯลฯ ยิ่งมีหลายช่องทางการขายสินค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้การจัดการระบบง่ายมากขึ้นเท่านั้น


ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่

●  การคัดลอกข้อมูลสินค้า การดึงรายละเอียดสินค้าจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้อย่างง่ายดาย สามารถทำการแก้ไขเป็นชุดเพื่อลงขายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
●  การซิงค์คำสั่งซื้อจากทุกช่องทางการขายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถจัดการคำสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการพิมพ์ใบปะหน้าที่สามารถกำหนดได้เองด้วย
●  การจัดการสินค้าคงคลังด้วยระบบอัจฉริยะ มีการตัดสต๊อกอัตโนมัติลดความผิดพลาด
●  ระบบการจัดการรีวิว ระบบการโปรโมทสินค้าตามกำหนดเวลาและฟังก์ชันการเพิ่มลายน้ำได้ตามความต้องการ
●  มีรายงานสถิติข้อมูลของการขายแบบหลายมิติ ช่วยทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพและแม่นยํามากยิ่งขึ้น
●  ระบบติดตามการขนส่ง ตรวจสอบสถานะการขนส่งได้แบบ Real Time 

 

สรุปการทำ Omnichannel Marketing

การทำ Omnichannel Marketing คือ การรวมเอาช่องทางการขายมาไว้ด้วยกัน เพื่อวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทุกด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อแบรนด์มากมาย ทั้งช่วยให้เจ้าของธุรกิจจัดการระบบการซื้อขายได้ง่ายมากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุน สามารถต่อยอดและขยายสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อลูกค้าพึงพอใจในการให้บริการก็จะกลับมาซื้อสินค้าซ้ำและมีการบอกต่อ ทำให้ธุรกิจอยู่รอดอย่างยั่งยืน การหาตัวช่วยที่ทำให้ Omnichannel กลายเป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ อย่าง BigSeller ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพื่อให้เจ้าของธุรกิจ หรือแม่ค้าออนไลน์สามารถจัดการระบบได้ข้ามแพลตฟอร์มและประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่ง